???? จ.สงขลา ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติทั่วจังหวัด ทั้ง 16 อำเภอ ล่าสุดได้รับความผลกระทบ 93 ตำบล 671 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้ว กว่า 95,000 ราย ด้านผู้ว่าฯ สงขลา เน้นย้ำพร้อมให้การดูแลช่วยเหลือเยียวยาประชาชนอย่างเต็มที่
. สถานการณ์อุทกภัยจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 22 - 28 พฤศจิกายน 2567 ส่งผลให้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติทั้ง 16 อำเภอ ซึ่งได้รับผลกระทบแล้ว 93 ตำบล 671 หมู่บ้าน 28 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 48,947 ครัวเรือน รวม 95,221 ราย ขณะที่หลายพื้นที่ของจังหวัดยังคงมีน้ำท่วมขังในระดับสูง บางจุดการเดินทางถูกตัดขาด สร้างความยากลำบากให้กับประชาชน จนต้องเร่งอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย
. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จังหวัดสงขลาได้จัดตั้งศูนย์อพยพ 29 แห่ง รองรับผู้ประสบภัย 123 ครัวเรือน รวม 390 คน พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือ อาทิ เรือ 93 ลำ เครื่องสูบน้ำ 65 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง และรถ 6 ล้อยกสูง 9 คัน นอกจากนี้ยังจัดเตรียมกระสอบทรายกว่า 50,125 ใบเพื่อเสริมการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพกว่า 9,671 ชุด อาหารปรุงสำเร็จ 24,102 กล่อง น้ำดื่ม 36,428 ขวด ยาและเวชภัณฑ์ 4,994 ชุด และจัดตั้งโรงครัว 37 แห่ง เพื่อดูแลประชาชนที่ประสบภัย
. สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดคือ อำเภอนาทวี มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 13,873 ครัวเรือน รองลงมาคืออำเภอหาดใหญ่ (6,640 ครัวเรือน) คลองหอยโข่ง (6,547 ครัวเรือน) จะนะ (4,646 ครัวเรือน) เทพา (4,361 ครัวเรือน) สะเดา (3,901 ครัวเรือน) และเมืองสงขลา (3,384 ครัวเรือน) ขณะที่สถานการณ์ฝนตกหนักยังคงดำเนินต่อไป คาดว่าจะมีผลกระทบจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
. นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับไว้ตลอดว่า หากเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ภาครัฐต้องเข้ามาดูแล ประชาชนต้องอิ่มท้อง ปลอดภัย จึงได้สั่งการให้ทุกอำเภอ จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอ กรณีอุทกภัย วาตภัย และดินโคนถล่ม ประจำปี 2567 ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยเน้นย้ำให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมความพร้อมและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ เพื่อจัดการสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม พร้อมสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป